วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การแบ่งนิวเคลียสแบบ Mitosis และ Meiosis

การแบ่งนิวเคลียสแบบ Mitosis
·       วัฏจักรเซลล์ (cell cycle) คือการที่เซลล์เมื่อแบ่งเสร็จครบ 1 รอบแล้ว สามารถแบ่งต่อไปได้ต่อเนื่องเป็นวัฏจักร พบเฉพาะในการแบ่งแบบ Mitosis
     ใน 1 วัฏจักรเซลล์ จะประกอบไปด้วย 2 ขั้นใหญ่ คือ interphase และ M-phase
·       Interphase เป็นระยะที่เตรียมพร้อมก่อนแบ่งนิวเคลียสและ cytoplasm จะเห็นนิวเคลียสขนาดใหญ่และ nucleolus ชัดเจน แบ่งเป็น
1.            G1 phase (ระยะก่อนสร้าง DNA) – เป็นระยะที่นานที่สุดในมนุษย์ เมื่อส่องเซลล์ใต้กล้องจุลทรรศน์จึงมักเห็นระยะนี้ มีการสังเคราะห์สารต่างๆ centrosome จะแบ่งตัวออกเป็น 2 ชุด โดยในเซลล์สัตว์ centrosome ประกอบด้วย centriole 1 คู่ตั้งฉากกัน และในเซลล์พืช centrosome จะเรียกว่า polar cap
2.            S phase (ระยะสร้าง DNA) – เกิดการ copy DNA ที่มีอยู่ขึ้นมาอีกชุดให้เหมือนกัน (DNA replication) เรียกว่าเกิดการจำลองตัวของโครโมโซม สังเกตได้ว่าระยะนี้ปริมาณ DNA เพิ่มเป็น 2 เท่าแต่จำนวนแท่งโครโมโซมเท่าเดิม
3.            G2 phase (ระยะหลังสร้าง DNA) – เตรียมพร้อมเต็มที่ มีการสร้าง organell และสารต่างๆ มากขึ้น
·       M – phase (mitotic phase) เป็นระยะสั้นๆ ประกอบด้วย karyokinesis 4 ระยะ และต่อด้วย cytokinesis
1.            Prophase (ใช้เวลานานที่สุดใน M – phase) – chromatin หดตัวกลายเป็นโครโมโซมที่มี 2 sister chromatid และ centrosome ทั้ง 2 ชุดเคลื่อนไปที่ขั้วเซลล์พร้อมกับงอกสาย spindle fiber ออกมายึดกันและกันเอาไว้ (ในเซลล์สัตว์ centrosome มี centriole แต่ในเซลล์พืชไม่มี) nucleolus สลายตัว
2.            Metaphaseโครโมโซมหดตัวมากสุด จึงมีขนาดใหญ่สุดและเห็นชัดสุด เหมาะสำหรับนับจำนวนโครโมโซมและทำ karyotype ในระยะนี้ spindle fiber ไปจับที่โปรตีน kinetochore และลากโครโมโซมมาที่กึ่งกลางเซลล์ nuclear membrane สลายตัวจนหมดสิ้น
3.            Anaphase (ใช้เวลาสั้นที่สุดใน cell cycle จึงสังเกตได้ยาก)- spindle fiber ฉีกแต่ละ sister chromatid ออกจากกัน แล้วดึงแต่ละโครมาทิดไปที่ขั้วเซลล์ ซึ่งแต่ละ sister chromatid จะทำหน้าที่เป็นโครโมโซมหนึ่งชุดในเซลล์ลูกต่อไป (daughter chromosome) จึงถือว่าในระยะนี้จำนวนแท่งโครโมโซมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของตอนต้น
4.            Telophase - spindle fiber สลายตัว มีการรีไซเคิล nucleolus และ nuclear membrane ขึ้นมาใหม่และโครโมโซมคลายตัวเป็นร่างแห chromatin ตามเดิม
5.            Cytokinesisแตกต่างกันในพืชและสัตว์ ได้เซลล์ลูก 2 เซลล์ (daughter cell) เหมือนเซลล์แม่

การแบ่งนิวเคลียสแบบ Meiosis
·       มี 4 ระยะ คือ interphase I, meiosis I, interphase II และ meiosis II
·       interphase Iเหมือนระยะ interphase ของ mitosis ทุกอย่าง
·       meiosis Iประกอบด้วย 4 ระยะย่อย และ cytokinesis
1.            prophase Iเหมือน mitosis ทุกอย่าง แต่พิเศษกว่าตรงที่ แต่ละคู่ของ homologous chromosome จะจับคู่กัน (synapsis) เห็นเป็น 2 โครโมโซมใกล้ๆกัน เรียก bivalent และเห็นเป็น 4 โครมาทิดของ homologous chromosome ใกล้ๆกัน เรียก tetrad, อาจเกิดการไขว้ทับกันของ non-sister chromatid  นั้นๆ เรียก crossing over และเรียกบริเวณที่ไขว้กันว่า chiasma ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนพันธุกรรมซึ่งกันและกัน ยังส่งผลให้เกิดความหลากหลายของเซลล์ลูก ความแปรผันทางพันธุกรรม ตลอดจนวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
2.            metaphase I - spindle fiber จับคู่ homologous chromosome มาเรียงกันในระนาบ metaphase plate
3.            anaphase I - spindle fiber จับ homologous chromosome ดึงออกจากกัน ในระยะนี้จำนวนแท่งโครโมโซมยังเท่าเดิมเพราะไม่มีการฉีก sister chromatid ออกจากกัน ซึ่งต่างจาก anaphase ของ mitosis
4.            telophase Iแต่ละแท่งของ homologous chromosome เคลื่อนไปยังขั้วเซลล์ มีการรีไซเคิล nucleolus และ nuclear membrane แต่ละนิวเคลียสที่เกิดขึ้นจะมีจำนวนโครโมโซมลดลงเป็นครึ่งหนึ่งแล้ว
5.            cytokinesisเกิดเซลล์ลูกขึ้นสองเซลล์ กลไกแตกต่างกันในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์
·       interphase IIไม่มี DNA replication เหมือน interphase I หรือ interphase ของ mitosis เพราะ 1 โครโมโซม มี 2 โครมาทิดอยู่แล้ว
·       meiosis II - ประกอบด้วย 4 ระยะย่อย คือ prophase II, metaphase II, anaphase II และ telophase II เหมือน mitosis ทั้ง 4 ระยะ คือมีการฉีก sister chromatid ออกจากกัน แล้วมี cytokinesis แบ่ง cytoplasm จนสุดท้ายที่สุดแล้วได้เซลล์ลูก 4 เซลล์ จากเซลล์แม่ 1 เซลล์

พื้นฐานของการแบ่งเซลล์

พื้นฐานของการแบ่งเซลล์
·        การแบ่งเซลล์ (cell division) เป็นกระบวนการหนึ่งของการเจริญเติบโต และการขยายขนาดของสิ่งมีชีวิต ผลที่ได้จะเพิ่มอัตราส่วนระหว่างพื้นที่ผิวต่อปริมาณเซลล์ ทำให้ลำเลียงสารเข้าออกเซลล์ได้สะดวกขึ้น
·        ใน eukaryotic cell ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก คือ การแบ่งนิวเคลียส (karyokinesis) และการแบ่ง cytoplasm (cytokinesis) ส่วนใน prokaryotic cell การแบ่งเซลล์ไม่ใช้ centriole หรือ spindle fiber
            Karyokinesis นั้นมี 2 วิธี คือ
1.            Mitosis แบ่งแล้วจำนวนชุดของโครโมโซมเท่าเดิม เช่น  
      n ---> n,   2n --->2n,  3n ---> 3n, … ได้เซลล์ลูก 2 เซลล์ พบในการเติบโตของสัตว์และพืช การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืช และการแบ่งเซลล์ทั่วไปของสิ่งมีชีวิตขั้นต่ำ
2.            Meiosis แบ่งแล้วจำนวนชุดของโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่ง เช่น
      2n---> n,  4n--->2n, … ได้เซลล์ลูก 4 เซลล์ พบในการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของสัตว์ การสร้างสปอร์ของพืช และการแบ่ง zygote ของสิ่งมีชีวิตขั้นต่ำ
           
            Cytokinesis ในเซลล์สัตว์ จะเกิดการคอดกิ่วของเซลล์ (cleavage furrow) จนหลุดออกจากกัน เป็นผลของ microfilament ส่วนในเซลล์พืช แบ่งด้วยการสร้าง cell plate บริเวณกึ่งกลางเซลล์โดยใช้สารจาก Golgi body แล้ว cell plate จะกลายเป็น middle lamella ซึ่งเป็นชั้นเชื่อมระหว่างเซลล์พืชต่อไป
·       n แสดงถึง จำนวนชุดของโครโมโซมที่เหมือนกัน เช่น 2n แปลว่า มีโครโมโซม 2 ชุดที่เหมือนกัน ถ้าชุดแรกมีโครโมโซม 3 แท่ง คือ เอ บี ซี เหมือนกัน กลายเป็น 6 แท่ง เขียนสัญลักษณ์เป็น 2n = 6 โดยมีโครโมโซม 3 คู่จาก 2 ชุดที่เหมือนกัน คือ คู่เอ คู่บี และคู่ซี โดยเราเรียกคู่ของมันว่า homologous chromosome เช่น เอ จากชุดแรก เป็น homologous กับเอ จากชุดที่สอง และถ้าโครโมโซมใด เป็น homologous ต่อกันแล้ว ก็แสดงว่า จะมีรูป่างเหมือนกัน มีขนาดเท่ากัน มีตำแหน่งของ centromere และตำแหน่งของยีนตรงกันด้วย
·       n (monoploid หรือ haploid number) : โครโมโซมแต่ละแท่งไม่เหมือนกันเลย พบได้ในเซลล์สืบพันธุ์, สปอร์และระยะ gametophyte ของพืช และเซลล์ร่างกายของสิ่งมีชีวิตขั้นต่ำ  
      2n (diploid number) : มี homologous ทีละ 2 แท่ง พบในเซลล์ร่างกาย และระยะ sporophyte ของพืช             
3n (triploid number) : มี homologous ทีละ 3 แท่ง พบใน endosperm ของพืช
4n (tatraploid number) : มี homologous ทีละ 4 แท่ง พบในระยะ anaphase ของ mitosis ในพืชและสัตว์
·       คำว่า โครมาทิด (chromatid) คือ ลักษณะแท่งโครโมโซม เช่น มีโครโมโซม 2 แท่ง แต่ละแท่งมี 2 โครมาทิด ซึ่งโครโมโซมที่มี 2 โครมาทิดนั้น จุดที่โครโมโซมมาติดกัน เรียกว่า ตำแหน่ง centromere มีโปรตีน kinetochore อยู่ และถ้าเกิดเป็นโครมาทิดบนโครโมโซมเดียวกัน เรียกว่า sister chromatid แต่ถ้าเกิดเป็นโครมาทิดบนคนละแท่งโครโมโซมกัน เรียกว่า  non-sister chromatid
·       ในมนุษย์ เซลล์ปกติจะมีโครโมโซมเป็น 2n = 46 แปลว่า มีโครโมโซม 2 ชุดที่เหมือนกัน (โดยชุดหนึ่งมาจากอสุจิของพ่อและอีกชุดหนึ่งมาจากไข่ของแม่ ตั้งแต่ครั้งที่ปฏิสนธิ) แต่ละชุดมีโครโมโซม 23 แท่ง ทั้ง 23 แท่งของแต่ละชุดก็จับเป็นคู่กับ 23 แท่งของอีกชุด กลายเป็นโครโมโซมคู่ที่ 1, คู่ที่ 2, … , คู่ที่ 23 ถ้าเกิดเรานำโครโมโซมแต่ละคู่มาเรียงกันเพื่อศึกษาลักษณะและความผิดปกติ เรียกว่าทำ karyotype
·       ชนิดของโครโมโซมในร่างกายคน
1.            Autosome คือคู่ที่ 1 ถึง 22 ซึ่งแต่ละคู่นั้นย่อมเป็น homologous ต่อกัน
2.            Sex chromosome คือคู่ที่ 23 โดยถ้าเป็นผู้ชาย =XY และถ้าเป็นผู้หญิง =XX

·       ชนิดของเซลล์ในร่างกายคน
1.            Somatic cell คือเซลล์ร่างกาย มี 2n = 46 ผู้หญิงจะมี homologous 23 คู่ เป็น autosome 22 คู่ และ sex chromosome 1 คู่ เป็น XX ส่วนผู้ชายจะมี homologous 22 คู่ ทั้งหมดเป็น autosome และ sex chromosome เป็น XY เซลล์ร่างกายส่วนใหญ่ผ่านการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำหน้าที่เฉพาะ (differentiation) และแบ่งเซลล์ต่อไปไม่ได้แล้ว เช่น เซลล์ประสาท, เซลล์กล้ามเนื้อ, เซลล์เม็ดเลือด แต่บางชนิดก็สามารถแบ่งเซลล์ได้เรื่อยๆ เช่น spermatogonia ที่เอาไว้สร้างอสุจิ, เซลล์ไขกระดูกที่สร้างเม็ดเลือด, เซลล์ใต้หนังกำพร้า, เซลล์เยื่อบุผนังทางเดินอาหาร เป็นต้น
2.            เซลล์สืบพันธุ์ (gamete, sex cell) คืออสุจิกับไข่ มี n = 23 ประกอบด้วย autosome 22 แท่ง และ sex chromosome 1 แท่ง
·       ในภาวะปกติ สารพันธุกรรมในนิวเคลียสของ eukaryote ไม่ได้อยู่เป็นแท่งโครโมโซมแต่อยู่ในลักษณะร่างแห chromatin อันเกิดจากสาย DNA มาหันรอบโปรตีน histone แต่ร่างแหนี้จะเกิดการหดตัวเข้าหากันกลายเป็นแท่งเมื่อจะแบ่งเซลล์เท่านั้น